Customer Reviews

เป็นนิยายที่อยู่คู่กับคนไทยมานานมากแล้วนะคะ ทำเป็นละครก็ออกมาหลายเวอร์ชั่นแล้ว แต่ชอบเวอร์ชั่นพี่ตุ้ย ธีรภัทรมากที่สุดค่ะ ได้มีโอกาสอ่านเป็นหนังสือ อยากจะบอกว่าใช้เอลาอ่านหลายวันมาก ๆ ค่ะ จริง ๆ อยากจะอ่านให้จบในวันเดียว แต่มันทำได้ยาก หนังสือหนามากจริง ๆ ในหนังสือเนื้อหาทั้งหมดของเรื่องจะเล่าผ่านตัวละครอย่างแม่พลอยค่ะ ความนึกคิดในช่วงแรก ๆ ก็จะเป็นความคิดของเด็ก ดูทุกสิ่งทุกอย่างแปลกตาไปหมด เมื่อวัยรุ่นก็จะเริ่มมีความรักเข้ามาข้องเกี่ยว ผู้เขียนทำออกมาได้ประทับใจมากจริง ๆ ยิ่งตอนที่จะได้แต่งงานกับคุณเปรมนี่ อารมณ์ของแม่พลอยก็ขึ้น ๆ ลง ๆ ดีเหลือเกินค่ะ เมื่อแต่งงานมาแล้ว พลอยก็เข้าสู่อีกยุคหนึ่ง เพราะมีบุตรชายให้เลี้ยงถึง 3 คน และมีบุตรสาวเป็นแก้วตาดวงใจอีกคนนึง ความคิดของแม่พลอยก็จะเปลี่ยนไปอีกมุมมองนึงซึ่งคราวนี้ก็ค่อนข้างจะสวนทางกับคุณเปรมอย่างเห็นได้ชัด จนเมื่อเข้าสู่บั้นปลายชีวิตก็ยิ่งไม่ไหวเลยค่ะ เข้าใจเลยว่าคนแก่ทำไมขี้บ่น เพราะแม่พลอยก็ขี้บ่นและไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ชอบมาก ๆ เลยนะคะ มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์แทรกอยู่ตามเนื้อเรื่อง ซึ่งอ่านยังไงก็ไม่เบื่อ เรื่องราวในวังและนอกวังผู้เขียนทำออกมาได้อย่างละเอียดมาก ตัวประกอบอื่น ๆ ในเรื่องก็ทำเขียนได้อย่างมีชีวิตชีวา โดยส่วนตัวชอบช้อยกับพ่อเพิ่มเป็นพิเศษค่ะ เป็นคนที่ดูไม่จริงจังกับชีวิต ถ้าเปรียบกับแม่พลอยแล้วคนละเรื่องกันเลย ตาอ๊อดก็น่ารักดีนะคะ เป็นนิยายขึ้นหิ้งตลอดกาลที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ

เป็นนิยายที่อยู่คู่กับคนไทยมานานมากแล้วนะคะ ทำเป็นละครก็ออกมาหลายเวอร์ชั่นแล้ว แต่ชอบเวอร์ชั่นพี่ตุ้ย ธีรภัทรมากที่สุดค่ะ ได้มีโอกาสอ่านเป็นหนังสือ อยากจะบอกว่าใช้เอลาอ่านหลายวันมาก ๆ ค่ะ จริง ๆ อยากจะอ่านให้จบในวันเดียว แต่มันทำได้ยาก หนังสือหนามากจริง ๆ ในหนังสือเนื้อหาทั้งหมดของเรื่องจะเล่าผ่านตัวละครอย่างแม่พลอยค่ะ ความนึกคิดในช่วงแรก ๆ ก็จะเป็นความคิดของเด็ก ดูทุกสิ่งทุกอย่างแปลกตาไปหมด เมื่อวัยรุ่นก็จะเริ่มมีความรักเข้ามาข้องเกี่ยว ผู้เขียนทำออกมาได้ประทับใจมากจริง ๆ ยิ่งตอนที่จะได้แต่งงานกับคุณเปรมนี่ อารมณ์ของแม่พลอยก็ขึ้น ๆ ลง ๆ ดีเหลือเกินค่ะ เมื่อแต่งงานมาแล้ว พลอยก็เข้าสู่อีกยุคหนึ่ง เพราะมีบุตรชายให้เลี้ยงถึง 3 คน และมีบุตรสาวเป็นแก้วตาดวงใจอีกคนนึง ความคิดของแม่พลอยก็จะเปลี่ยนไปอีกมุมมองนึงซึ่งคราวนี้ก็ค่อนข้างจะสวนทางกับคุณเปรมอย่างเห็นได้ชัด จนเมื่อเข้าสู่บั้นปลายชีวิตก็ยิ่งไม่ไหวเลยค่ะ เข้าใจเลยว่าคนแก่ทำไมขี้บ่น เพราะแม่พลอยก็ขี้บ่นและไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ชอบมาก ๆ เลยนะคะ มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์แทรกอยู่ตามเนื้อเรื่อง ซึ่งอ่านยังไงก็ไม่เบื่อ เรื่องราวในวังและนอกวังผู้เขียนทำออกมาได้อย่างละเอียดมาก ตัวประกอบอื่น ๆ ในเรื่องก็ทำเขียนได้อย่างมีชีวิตชีวา โดยส่วนตัวชอบช้อยกับพ่อเพิ่มเป็นพิเศษค่ะ เป็นคนที่ดูไม่จริงจังกับชีวิต ถ้าเปรียบกับแม่พลอยแล้วคนละเรื่องกันเลย ตาอ๊อดก็น่ารักดีนะคะ เป็นนิยายขึ้นหิ้งตลอดกาลที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ

เป็นนิยายเล่มแรกที่ได้อ่านเลยคะที่เป็นแนวนี้ ใช้เวลาคิดตั้งนานว่าชื่อเรื่องอะไรนะ จุมพิตจำเลยนางโจรเป็นเรื่องราวของมหพล สรัญชุตินันท์ หรือมาร์ท ทายาทคนเดียวของมหาเศรษฐีหมื่นล้าน มาร์ทกับพ่อไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก เพราะมาร์ทเกลียดบรรดาเมียน้อยของพ่อ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีแม่ของหญิงสาวนามมนต์พสาอยู่ด้วย มนต์พสาและแม่อยู่ด้วยกันอย่างยากลำบาก เพราะแม่ป่วยด้วยโรคที่ต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมาก แม้จะรักและบูชาพ่อของนายมาร์ทด้วยความกตัญญูโดยแท้จริง แต่เธอก็จำเป็นต้องเข้าไปสืบว่า พ่อของมาร์ทจะให้เงินแม่เธอเป็นค่าตอบแทนเท่าไร ทำให้เธอได้พบกับนายมาร์ท ซึ่งเคยเจอกันครั้งนึงแล้วตอนเด็ก เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดมาร์ทก็ได้แต่อาฆาตแค้นและคิดจะเอาคืนอย่างเดียว และเค้าก็ทำสำเร็จ แต่หลังจากนั้นเค้ากลับตกหลุมรักมนต์พสาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่การกระทำของเค้าทำให้เค้าต้องสูญเสียมนต์พสาไป ซึ่งนายมาร์ทก็ยอมทำทุกอย่างให้มนต์พสากลับมาอยู่กับเค้าให้ได้ อ่านจบแล้วก็รู้สึกซีเรียสดีค่ะ นายมาร์ทนี่เป็นคนเกเรมาก ๆ นิสัยไม่ดีเลย ชอบทำร้ายจิตใจนางเอกอยู่เรื่อย คอยแต่จะปล้ำนางเอกท่าเดียว นางเอกก็ใช่ย่อย คอยแต่จะอ่อยพระเอกทั้งเรื่องเหมือนกัน มาโอเคหน่อยตอนที่หนีพระเอกไปแล้วก็รู้สึกว่าจะเข้มแข็งขึ้นเยอะ นายมาร์ทตอนไปง้อเค้าก็ทำตัวดีจนน่าสงสาร แม่นางเอกด่าก็ยอมทั้ง ๆ ที่ปกติชอบไปด่าเค้า เรื่องราวมันก็จบลงด้วยประการฉะนี้ค่ะ

เป็นนิยายเล่มแรกที่ได้อ่านเลยคะที่เป็นแนวนี้ ใช้เวลาคิดตั้งนานว่าชื่อเรื่องอะไรนะ จุมพิตจำเลยนางโจรเป็นเรื่องราวของมหพล สรัญชุตินันท์ หรือมาร์ท ทายาทคนเดียวของมหาเศรษฐีหมื่นล้าน มาร์ทกับพ่อไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก เพราะมาร์ทเกลียดบรรดาเมียน้อยของพ่อ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีแม่ของหญิงสาวนามมนต์พสาอยู่ด้วย มนต์พสาและแม่อยู่ด้วยกันอย่างยากลำบาก เพราะแม่ป่วยด้วยโรคที่ต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมาก แม้จะรักและบูชาพ่อของนายมาร์ทด้วยความกตัญญูโดยแท้จริง แต่เธอก็จำเป็นต้องเข้าไปสืบว่า พ่อของมาร์ทจะให้เงินแม่เธอเป็นค่าตอบแทนเท่าไร ทำให้เธอได้พบกับนายมาร์ท ซึ่งเคยเจอกันครั้งนึงแล้วตอนเด็ก เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดมาร์ทก็ได้แต่อาฆาตแค้นและคิดจะเอาคืนอย่างเดียว และเค้าก็ทำสำเร็จ แต่หลังจากนั้นเค้ากลับตกหลุมรักมนต์พสาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่การกระทำของเค้าทำให้เค้าต้องสูญเสียมนต์พสาไป ซึ่งนายมาร์ทก็ยอมทำทุกอย่างให้มนต์พสากลับมาอยู่กับเค้าให้ได้ อ่านจบแล้วก็รู้สึกซีเรียสดีค่ะ นายมาร์ทนี่เป็นคนเกเรมาก ๆ นิสัยไม่ดีเลย ชอบทำร้ายจิตใจนางเอกอยู่เรื่อย คอยแต่จะปล้ำนางเอกท่าเดียว นางเอกก็ใช่ย่อย คอยแต่จะอ่อยพระเอกทั้งเรื่องเหมือนกัน มาโอเคหน่อยตอนที่หนีพระเอกไปแล้วก็รู้สึกว่าจะเข้มแข็งขึ้นเยอะ นายมาร์ทตอนไปง้อเค้าก็ทำตัวดีจนน่าสงสาร แม่นางเอกด่าก็ยอมทั้ง ๆ ที่ปกติชอบไปด่าเค้า เรื่องราวมันก็จบลงด้วยประการฉะนี้ค่ะ

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่น่าสนใจมาก ๆ เล่มหนึ่งค่ะ เดินผ่านหลาย ๆ รอบแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้จับสักที ได้แต่นิยายไปอ่าน ว่าง ๆ ก็เลยลองเปิดดูนิดนึง มันน่าสนใจมาก ๆ เลยไม่ลังเลที่จะซื้อหนังสือเล่มนี้ค่ะ อ่านจบแล้วก็อยากจะบอกว่า มันก็เป็นหนังสือเชิงจิตวิทยาเล่มหนึ่ง แต่เหมาะมาก ๆ สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา พึ่งสำเร็จการศึกษา หรือสำเร็จการศึกษามาแล้วก็ยังน่าอ่านค่ะ ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมการกล่าวสุนทรพจน์ของคนดังทั่วโลกในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ที่ได้เริ่มกันตั้งแต่ก่อนศึกษาและหลังศึกษา การทำงาน และการยืนอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งบุคคลเหล่านี้ต่างก็มีข้อผิดพลาดของตนเองในอดีต และได้ยกมาไว้ในสุนทรพจน์เพื่อเตือนใจทั้งตัวเค้าเองและคนฟังว่า ควรจะต้องปรับปรุงสิ่งไหนบ้าง ซึ่งมันดีมาก ๆ เลยค่ะ หนังสือเล่มนี้ก็ได้รวบรวมสุนทรพจน์ของบุคคลดัง ๆ 10 คนนะคะ ก็มีทั้งนักธุรกิจ ประธานาธิบดี นักเขียน นักแสดง ที่เราเคยได้ยินกันมาบ้างอย่างเช่น เจ เค โรว์ลิ่งที่เรารู้จักกันดี คนนี้กล่าวสุนทรพจน์เก่งมากค่ะ ไม่น่าเบี่อเลย หนังสือจะชี้ไปในแนวที่ว่า คนมีอยู่ประเภท คือคนที่รอให้โอกาสวิ่งมาถึงตัวเอง และคนที่วิ่งเข้าหาโอกาสโดยที่ไม่ได้เสียเวลารอ ให้เราเลือกเอาว่าเราจะเป็นคนประเภทไหน อ่านจบแล้วก็รู้สึกดีมาก ๆ ค่ะ เป็นหนังสือที่อ่านได้ไม่เบื่อเลย มักจะหยิบมาอ่านเวลาเซ็ง ๆ เบื่อ ๆ เพราะหลังจากอ่านแล้วจะรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันทีคะ

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่น่าสนใจมาก ๆ เล่มหนึ่งค่ะ เดินผ่านหลาย ๆ รอบแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้จับสักที ได้แต่นิยายไปอ่าน ว่าง ๆ ก็เลยลองเปิดดูนิดนึง มันน่าสนใจมาก ๆ เลยไม่ลังเลที่จะซื้อหนังสือเล่มนี้ค่ะ อ่านจบแล้วก็อยากจะบอกว่า มันก็เป็นหนังสือเชิงจิตวิทยาเล่มหนึ่ง แต่เหมาะมาก ๆ สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา พึ่งสำเร็จการศึกษา หรือสำเร็จการศึกษามาแล้วก็ยังน่าอ่านค่ะ ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมการกล่าวสุนทรพจน์ของคนดังทั่วโลกในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ที่ได้เริ่มกันตั้งแต่ก่อนศึกษาและหลังศึกษา การทำงาน และการยืนอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งบุคคลเหล่านี้ต่างก็มีข้อผิดพลาดของตนเองในอดีต และได้ยกมาไว้ในสุนทรพจน์เพื่อเตือนใจทั้งตัวเค้าเองและคนฟังว่า ควรจะต้องปรับปรุงสิ่งไหนบ้าง ซึ่งมันดีมาก ๆ เลยค่ะ หนังสือเล่มนี้ก็ได้รวบรวมสุนทรพจน์ของบุคคลดัง ๆ 10 คนนะคะ ก็มีทั้งนักธุรกิจ ประธานาธิบดี นักเขียน นักแสดง ที่เราเคยได้ยินกันมาบ้างอย่างเช่น เจ เค โรว์ลิ่งที่เรารู้จักกันดี คนนี้กล่าวสุนทรพจน์เก่งมากค่ะ ไม่น่าเบี่อเลย หนังสือจะชี้ไปในแนวที่ว่า คนมีอยู่ประเภท คือคนที่รอให้โอกาสวิ่งมาถึงตัวเอง และคนที่วิ่งเข้าหาโอกาสโดยที่ไม่ได้เสียเวลารอ ให้เราเลือกเอาว่าเราจะเป็นคนประเภทไหน อ่านจบแล้วก็รู้สึกดีมาก ๆ ค่ะ เป็นหนังสือที่อ่านได้ไม่เบื่อเลย มักจะหยิบมาอ่านเวลาเซ็ง ๆ เบื่อ ๆ เพราะหลังจากอ่านแล้วจะรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันทีคะ

เลดี้ทรานซิสเตอร์ อยากจะขอชื่นชมการแต่งชื่อของผู้เขียน แพรณัฐมาก ๆ ค่ะ เก๋มาก ๆ เลย เนื้อหาข้างในก็ยังเก๋อีกนะคะ เป็นการเอาโครงเร่องแบบเดิม ๆ ของนิยายในอดีตมาปรับปรุงให้เข้ากับสมัยใหม่ กลายเป็นนิยายที่แฝงแฟนตาซีเล็ก ๆ ในแบบฉบับของแพรณัฐ และที่สำคัญ ยังมีคุณชายรณพีร์กับเพียงขวัญจากสุภาพบุรุษจุฑาเทพออกมาแจมในเรื่องนี้เป็นเซอร์ไพรส์ด้วยค่ะ กรี๊ดมาก ๆ เลย เรื่องนี้เป็นเรื่องของสาวน้อยบ้านนานามว่ากอหญ้า ที่อยู่ ๆ ก็พึ่งรู้ตัวว่า ตัวเองได้รับมรดกจากคุณพีระที่เป็นปู่จำนวนมหาศาล แต่คุณพีระเองก็ไม่สามารถรับได้กับอาการกระโดกกระเดกของเธอ จึงได้ส่งกอหญ้าไปเข้าเรียนหลักสูตรเลดี้ที่สถาบันเพอร์เฟ็กต์เลดี้ อันมีอาจารย์เติมศักดิ์เป็นอาจารย์ใหญ่ ที่นี่กอหญ้าได้พบกับ นายธกฤต หลานชายของอาจารย์เติมศักดิ์ที่ขยันหว่านเสน่ห์ใส่เธอเหลือเกิน และหุ่นยนต์ผู้สอนมารยาทให้เธอที่มีลักษณะหล่อเหลาอย่างทีทีหกเก้า ทำให้เธอตัดสินใจลำบากมากว่าจริง ๆ แล้วชอบใครอยู่ เรื่องไปกันใหญ่อีกเมื่อเธอไปรับรู้ความลับอะไรบางอย่างของสถาบัน พาให้หัวเราะท้องแข็งกันเกือบทั้งเรื่องเลยค่ะ เป็นนิยายที่แบบแฟนตาซีและคอมเมดี้มาก ๆ ตัวกอหญ้าเองเพราะเป็นสาวบ้านนอกมาก่อน การพาเธอมาขัดสีฉวีวรรณใหม่ให้เป็นสาวเมืองกรุงนั้นก็คงไม่ต่างอะไรกับการจับปูใส่กระด้งเลย ขำมาก ๆ ค่ะ รู้สึกเห็นใจคุณปู่พีระอยู่บ้าง แต่แอบรำคาญอาจารย์เติมศักดิ์นิดนึงที่ดูประดิษฐ์ไปหน่อย แต่ลักษณะก็คงคล้าย ๆ กับอาจารย์ยิ่งศักดิ์นะ

เลดี้ทรานซิสเตอร์ อยากจะขอชื่นชมการแต่งชื่อของผู้เขียน แพรณัฐมาก ๆ ค่ะ เก๋มาก ๆ เลย เนื้อหาข้างในก็ยังเก๋อีกนะคะ เป็นการเอาโครงเร่องแบบเดิม ๆ ของนิยายในอดีตมาปรับปรุงให้เข้ากับสมัยใหม่ กลายเป็นนิยายที่แฝงแฟนตาซีเล็ก ๆ ในแบบฉบับของแพรณัฐ และที่สำคัญ ยังมีคุณชายรณพีร์กับเพียงขวัญจากสุภาพบุรุษจุฑาเทพออกมาแจมในเรื่องนี้เป็นเซอร์ไพรส์ด้วยค่ะ กรี๊ดมาก ๆ เลย เรื่องนี้เป็นเรื่องของสาวน้อยบ้านนานามว่ากอหญ้า ที่อยู่ ๆ ก็พึ่งรู้ตัวว่า ตัวเองได้รับมรดกจากคุณพีระที่เป็นปู่จำนวนมหาศาล แต่คุณพีระเองก็ไม่สามารถรับได้กับอาการกระโดกกระเดกของเธอ จึงได้ส่งกอหญ้าไปเข้าเรียนหลักสูตรเลดี้ที่สถาบันเพอร์เฟ็กต์เลดี้ อันมีอาจารย์เติมศักดิ์เป็นอาจารย์ใหญ่ ที่นี่กอหญ้าได้พบกับ นายธกฤต หลานชายของอาจารย์เติมศักดิ์ที่ขยันหว่านเสน่ห์ใส่เธอเหลือเกิน และหุ่นยนต์ผู้สอนมารยาทให้เธอที่มีลักษณะหล่อเหลาอย่างทีทีหกเก้า ทำให้เธอตัดสินใจลำบากมากว่าจริง ๆ แล้วชอบใครอยู่ เรื่องไปกันใหญ่อีกเมื่อเธอไปรับรู้ความลับอะไรบางอย่างของสถาบัน พาให้หัวเราะท้องแข็งกันเกือบทั้งเรื่องเลยค่ะ เป็นนิยายที่แบบแฟนตาซีและคอมเมดี้มาก ๆ ตัวกอหญ้าเองเพราะเป็นสาวบ้านนอกมาก่อน การพาเธอมาขัดสีฉวีวรรณใหม่ให้เป็นสาวเมืองกรุงนั้นก็คงไม่ต่างอะไรกับการจับปูใส่กระด้งเลย ขำมาก ๆ ค่ะ รู้สึกเห็นใจคุณปู่พีระอยู่บ้าง แต่แอบรำคาญอาจารย์เติมศักดิ์นิดนึงที่ดูประดิษฐ์ไปหน่อย แต่ลักษณะก็คงคล้าย ๆ กับอาจารย์ยิ่งศักดิ์นะ

นิยายชุดนี้สนุกดีนะคะ ที่แรกคิดว่ามันจะน่าเบื่อ ได้ลองอ่านในม่านเมฆไปแล้วรู้สึกชอบ เลยลองเลือกหยิบเล่มนี้มาอ่านเป็นเล่มที่ 2 เพราะทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า เนือ้หาไม่ได้ต่อเนื่องกัน บอกได้เลยว่าเล่มนี้ประทับใจพอ ๆ กับในม่านเมฆเลยค่ะ เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับป่าไม้และการเกษตรค่ะ จะเน้นไปในเรื่องของการทำเกษตรบนพื้นที่สูงทดแทนฝิ่น ภูมิลำเนาที่ใช้ประกอบนิยายเรื่องนี้คือจ.เชียงใหม่ค่ะ นางเอกก็เป็นคนเหนือแต๊ ๆ เลย พูดภาษาเหนือบ้าง กลางบ้าน ส่วนพระเอกเป็นหัวหน้าพิทักษ์ป่าไม้ค่ะ เท่มาก ๆ เลย มีฉากแอคชั่นให้ได้ลุ้นกันด้วยในช่วงท้าย ๆ พระเอกเป็นคนน่ารักค่ะ ชอบนางเอกตั้งแต่แรกเห็น ส่วนนางเอก นับดาว ถึงปากจะบอกว่าไม่ชอบ แต่ก็แอบมีใจให้อคินตั้งแต่แรกแล้วเหมือนกัน ความรักของทั้งคู่ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากเพราะอคินสงสัยว่าพ่อของนับดาวจะมีส่วนร่วมในขบวนการตัดไม้ ซึ่งนับดาวไม่เชื่อเป็นอันขาด และความรักของทั้งคู่ยิ่งดูเหมือนจะยากขึ้นไปอีก เมื่อพ่อของนับดาวสนับสนุนน่านนที ตำรวจตระเวนชายแดนเพื่อนสนิทของนับดาว
อยากจะบอกว่าชอบนิยายเรื่องนี้มาก ชอบอคินและนับดาวค่ะ ทั้งคู่เป็นอะไรที่ลงตัวมาก อคินเองก็รักนับดาวมาก พยายามจะปกป้องและอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ อย่างใจเย็น ซึ่งนับดาวเองก็เชื่อว่าอคินไม่โกหก แต่เธอจะเชื่อในสิ่งที่อคินบอกได้อย่างไร เสียดายที่มาตกม้าตายตอนจบนิดเดียวค่ะ ทั้ง ๆ ที่อย่างอื่นกำลังจะเพอร์เฟ็กต์แล้วเชียว ให้ในม่านเมฆชนะไป 1 คะแนนค่ะ

นิยายชุดนี้สนุกดีนะคะ ที่แรกคิดว่ามันจะน่าเบื่อ ได้ลองอ่านในม่านเมฆไปแล้วรู้สึกชอบ เลยลองเลือกหยิบเล่มนี้มาอ่านเป็นเล่มที่ 2 เพราะทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า เนือ้หาไม่ได้ต่อเนื่องกัน บอกได้เลยว่าเล่มนี้ประทับใจพอ ๆ กับในม่านเมฆเลยค่ะ เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับป่าไม้และการเกษตรค่ะ จะเน้นไปในเรื่องของการทำเกษตรบนพื้นที่สูงทดแทนฝิ่น ภูมิลำเนาที่ใช้ประกอบนิยายเรื่องนี้คือจ.เชียงใหม่ค่ะ นางเอกก็เป็นคนเหนือแต๊ ๆ เลย พูดภาษาเหนือบ้าง กลางบ้าน ส่วนพระเอกเป็นหัวหน้าพิทักษ์ป่าไม้ค่ะ เท่มาก ๆ เลย มีฉากแอคชั่นให้ได้ลุ้นกันด้วยในช่วงท้าย ๆ พระเอกเป็นคนน่ารักค่ะ ชอบนางเอกตั้งแต่แรกเห็น ส่วนนางเอก นับดาว ถึงปากจะบอกว่าไม่ชอบ แต่ก็แอบมีใจให้อคินตั้งแต่แรกแล้วเหมือนกัน ความรักของทั้งคู่ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากเพราะอคินสงสัยว่าพ่อของนับดาวจะมีส่วนร่วมในขบวนการตัดไม้ ซึ่งนับดาวไม่เชื่อเป็นอันขาด และความรักของทั้งคู่ยิ่งดูเหมือนจะยากขึ้นไปอีก เมื่อพ่อของนับดาวสนับสนุนน่านนที ตำรวจตระเวนชายแดนเพื่อนสนิทของนับดาว
อยากจะบอกว่าชอบนิยายเรื่องนี้มาก ชอบอคินและนับดาวค่ะ ทั้งคู่เป็นอะไรที่ลงตัวมาก อคินเองก็รักนับดาวมาก พยายามจะปกป้องและอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ อย่างใจเย็น ซึ่งนับดาวเองก็เชื่อว่าอคินไม่โกหก แต่เธอจะเชื่อในสิ่งที่อคินบอกได้อย่างไร เสียดายที่มาตกม้าตายตอนจบนิดเดียวค่ะ ทั้ง ๆ ที่อย่างอื่นกำลังจะเพอร์เฟ็กต์แล้วเชียว ให้ในม่านเมฆชนะไป 1 คะแนนค่ะ

เป็นนิยายน่ารัก ๆ แนวเจ้าหญิงเจ้าชายที่เนื้อหาน่ารักมาก ๆ เล่มหนึ่งเลยค่ะ ในเรื่องนี้จะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งก็ไม่ได้เครียดมากนัก ออกจะสนุกสมเหตุสมผลด้วยค่ะ เรื่องนี้พระเอกเป็นเจ้าหลวงของรัฐ ๆ หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายมาก แต่ก็มั่งคั่งมาก ส่วนรัฐของนางเอกที่เป็นเจ้าหญิงจะอยู่ตรงกลางค่ะ รัฐของเจ้าหญิงมณิสราคู่หมั้นพระเอกจะอยู่ใต้สุด ซึ่งมีทางออกติดกับทะเล โดยปกติ 3 รัฐนี้ก็ไม่ค่อยถูกกันเท่าไร ซ้ำแล้วเจ้าหญิงทรรศิกายังถูกลักพาตัวในช่วงรอยต่อของกาสิกกับพันธุรัฐ เจ้าหญิงมณิสราก็หายตัวไปในเขตพันธุรัฐเสียอีก ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดในตอนท้ายจบลงได้ด้วยดีค่ะ แต่ทีนี้อยากจะมาบอกกล่าวความประทับใจที่มีต่อนิยายชุดนี้ ซึ่งหยิบมาอ่านหลายครั้งมาก ๆ แล้ว ที่ประทับใจมาก ๆ คือความรักของเจ้าหลวงรังสิมันต์ที่มีต่อเจ้าหญิงทรรศิกาค่ะ คือเค้าอาจจะเป็นคนจริงจัง คำไหนคำนั้น เลยดูเป็นคนป่าเถื่อนสักเล็กน้อยสำหรับนางเอก ซึ่งชอบประชดประชันพระเอกตลอดเวลา แต่พระเอกเวลาอยู่กับนางเอกเป็นเจ้าหลวงที่มีความอ่อนโยนและอบอุ่นมาก ๆ นางเอกก็ไม่ใช่เจ้าหญิงประเภทเอาแต่ใจแง้ว ๆ ตลอดเรื่อง เธอสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพระเอกได้ในที่สุด ซึ่งไวมากจนพระเอกตกใจเลย น่ารักมาก ๆ ค่ะ ภาษาที่ใช้ก็มีความสละสลวยมาก ๆ อ่านแล้วรู้สึกอินและประทับใจกับทุกประโยคเลย องครักษ์ทั้งสองนายก็น่ารักมากเหลือเกิน ดูอารมณ์ดีกันตลอดเวลา ยิ่งฉากหลังที่เป็นเมืองในหิมะ มีถ้ำน้ำแข็งนี่ยิ่งประทับใจสุด ๆ ค่ะ

เป็นนิยายน่ารัก ๆ แนวเจ้าหญิงเจ้าชายที่เนื้อหาน่ารักมาก ๆ เล่มหนึ่งเลยค่ะ ในเรื่องนี้จะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งก็ไม่ได้เครียดมากนัก ออกจะสนุกสมเหตุสมผลด้วยค่ะ เรื่องนี้พระเอกเป็นเจ้าหลวงของรัฐ ๆ หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายมาก แต่ก็มั่งคั่งมาก ส่วนรัฐของนางเอกที่เป็นเจ้าหญิงจะอยู่ตรงกลางค่ะ รัฐของเจ้าหญิงมณิสราคู่หมั้นพระเอกจะอยู่ใต้สุด ซึ่งมีทางออกติดกับทะเล โดยปกติ 3 รัฐนี้ก็ไม่ค่อยถูกกันเท่าไร ซ้ำแล้วเจ้าหญิงทรรศิกายังถูกลักพาตัวในช่วงรอยต่อของกาสิกกับพันธุรัฐ เจ้าหญิงมณิสราก็หายตัวไปในเขตพันธุรัฐเสียอีก ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดในตอนท้ายจบลงได้ด้วยดีค่ะ แต่ทีนี้อยากจะมาบอกกล่าวความประทับใจที่มีต่อนิยายชุดนี้ ซึ่งหยิบมาอ่านหลายครั้งมาก ๆ แล้ว ที่ประทับใจมาก ๆ คือความรักของเจ้าหลวงรังสิมันต์ที่มีต่อเจ้าหญิงทรรศิกาค่ะ คือเค้าอาจจะเป็นคนจริงจัง คำไหนคำนั้น เลยดูเป็นคนป่าเถื่อนสักเล็กน้อยสำหรับนางเอก ซึ่งชอบประชดประชันพระเอกตลอดเวลา แต่พระเอกเวลาอยู่กับนางเอกเป็นเจ้าหลวงที่มีความอ่อนโยนและอบอุ่นมาก ๆ นางเอกก็ไม่ใช่เจ้าหญิงประเภทเอาแต่ใจแง้ว ๆ ตลอดเรื่อง เธอสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพระเอกได้ในที่สุด ซึ่งไวมากจนพระเอกตกใจเลย น่ารักมาก ๆ ค่ะ ภาษาที่ใช้ก็มีความสละสลวยมาก ๆ อ่านแล้วรู้สึกอินและประทับใจกับทุกประโยคเลย องครักษ์ทั้งสองนายก็น่ารักมากเหลือเกิน ดูอารมณ์ดีกันตลอดเวลา ยิ่งฉากหลังที่เป็นเมืองในหิมะ มีถ้ำน้ำแข็งนี่ยิ่งประทับใจสุด ๆ ค่ะ

พิษรักลวงใจ ชื่อเก๋ดีจังเลย แต่หน้าปกนี่พระเอกดูหล่อเกาหลีมาก ๆ นางเอกเหมือนเก้า ศุภัสสราเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอลวนชวนปวดหัวมากค่ะ จะบอกว่านิยายเรื่องนี้เป็นโรแมนติกมันก็ไม่เชิง มันต้องเป็นดราม่ามากกว่า บางทีก็ดราม่าเกินไป พระเอกของเรื่องชื่อคุณอัศวินค่ะ อัศวินเป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่กลับปลอมตัวมาเป็นคนรถเพื่อตามหารักแท้ (รู้สึกคล้าย ๆ กับฝันเฟื่องยังไงก็ไม่รู้ค่ะ) เพราะที่ผ่านมา ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตของอัศวินล้วนแต่อยากจะได้เงินจากเค้าทั้งนั้น โชคชะตากำหนดให้เค้าดูเหมือนจะพบรักแท้กับสาวน้อยนามหทัยชนก เพราะหทัยชนกตรงสเปกเค้าทุกอย่างทั้งเรื่องติดดินและความเป็นส่วนตัวที่แบบอะไรก็ได้ ง่าย ๆ แต่ก็มีเหตุให้อัศวินเข้าใจผิดว่าที่แท้เธอก็ไม่ต่างกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ด้วยเพราะรักมากก็แค้นมาก อัศวินจึงปล้ำเธอ แต่ความดราม่ายังมีอีกเมื่อหทัยชนกดันไปสมัครงานที่บริษัทของอัศวิน นางเอกโดนอีกจนต้องหอบลูกในท้องหนีไป อัศวินไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนแล้วยังประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมอีก โชคชะตาพาทั้งหมดมาพบกันอีกครั้ง อัศวินได้พบเจอเด็กน้อยไออุ่นอายุ 3 ขวบที่รู้สึกถูกชะตาแต่ไม่รู้ว่าเป็นลูกของเค้าเอง ปาฏฺหาริย์เท่านั้นที่จะคืนความจำให้กับอัศวินได้ บอกได้คำเดียวค่ะว่าเรื่องนี้หดหู่เกินบรรยาย ออะไรนางเอกจะซวยขนาดนั้น ไม่ไหวหรอกนะคะ เป็นบางคนคงจะฆ่าตัวตายไปแล้ว โดนบีบทุกทางเลย

พิษรักลวงใจ ชื่อเก๋ดีจังเลย แต่หน้าปกนี่พระเอกดูหล่อเกาหลีมาก ๆ นางเอกเหมือนเก้า ศุภัสสราเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอลวนชวนปวดหัวมากค่ะ จะบอกว่านิยายเรื่องนี้เป็นโรแมนติกมันก็ไม่เชิง มันต้องเป็นดราม่ามากกว่า บางทีก็ดราม่าเกินไป พระเอกของเรื่องชื่อคุณอัศวินค่ะ อัศวินเป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่กลับปลอมตัวมาเป็นคนรถเพื่อตามหารักแท้ (รู้สึกคล้าย ๆ กับฝันเฟื่องยังไงก็ไม่รู้ค่ะ) เพราะที่ผ่านมา ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตของอัศวินล้วนแต่อยากจะได้เงินจากเค้าทั้งนั้น โชคชะตากำหนดให้เค้าดูเหมือนจะพบรักแท้กับสาวน้อยนามหทัยชนก เพราะหทัยชนกตรงสเปกเค้าทุกอย่างทั้งเรื่องติดดินและความเป็นส่วนตัวที่แบบอะไรก็ได้ ง่าย ๆ แต่ก็มีเหตุให้อัศวินเข้าใจผิดว่าที่แท้เธอก็ไม่ต่างกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ด้วยเพราะรักมากก็แค้นมาก อัศวินจึงปล้ำเธอ แต่ความดราม่ายังมีอีกเมื่อหทัยชนกดันไปสมัครงานที่บริษัทของอัศวิน นางเอกโดนอีกจนต้องหอบลูกในท้องหนีไป อัศวินไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนแล้วยังประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมอีก โชคชะตาพาทั้งหมดมาพบกันอีกครั้ง อัศวินได้พบเจอเด็กน้อยไออุ่นอายุ 3 ขวบที่รู้สึกถูกชะตาแต่ไม่รู้ว่าเป็นลูกของเค้าเอง ปาฏฺหาริย์เท่านั้นที่จะคืนความจำให้กับอัศวินได้ บอกได้คำเดียวค่ะว่าเรื่องนี้หดหู่เกินบรรยาย ออะไรนางเอกจะซวยขนาดนั้น ไม่ไหวหรอกนะคะ เป็นบางคนคงจะฆ่าตัวตายไปแล้ว โดนบีบทุกทางเลย

หนังสือเล่มนี้เป็นแนวสบาย ๆ ค่ะ ดูอ่านง่าย ปกติก็ชอบหนังสือชุด ความรู้สึกดี ๆ ที่เรียกว่ารักเกือบทุกปกนะคะ เพราะอ่านแล้วไม่ค่อยเครียด ใส ๆ ไม่ต้องกดดันอะไรมาก อ่านได้หลายรอบด้วยค่ะ แต่ละคู่ก็มีความต่าง ซึ่งออกมาได้ครบรสมาก อย่างเล่มนี้ นางเอกชื่อ ชลิฌาค่ะ (ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าสมัยนี้ต้องตั้งชื่อพระเอก นางเอกให้มันอ่านยาก สะกดยากจัง) นางเอกเป็นครูสอนพิเศษป้องกันตัวจอมโหด เป็นพวกนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่รู้เท่าทันทุกอย่าง ตอนแรกเจ้านายเธออยากให้เธอไปเป็นนักสืบ แต่เธอไม่ไหวแล้ว ก็ยังไม่หลุดอยู่ดีเพราะป้าเธอมาขอร้องให้เธอไปตามสืบเรื่องพี่สาวที่หายตัวไป ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งก็คือนายพันแสง พระเอกของเรื่องค่ะ ซึ่งทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อน และพระเอกก็เคยเห็นฝีมือของนางเอกแล้ว แต่การมาครั้งนี้ของเธอ มาเพื่อสืบสวนเรื่องของพี่ เธอจึงสนใจแค่งานตรงหน้า ซึ่งลึก ๆ แล้วเธอก็ไม่คิดว่าพันแสงจะอยู่เบื้องหลัง ความรักของทั้งคู่เริ่มเกิดขึ้น แต่ยังติดที่พระเอกเป็นบุคคลต้องสงสัย กว่าจะจบได้ สืบเรื่องราวทั้งหมดได้ก็เล่นเอายิ้มเป็นชั่วโมงค่ะ พระเอกเรื่องนี้น่ารักนะคะ ดูเป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่น มีจิตวิทยาสูง ผูกมิตรกับคนในครอบครัวนางเอกได้หมดเลย แม้กระทั่งคุณพ่อที่หวงลูกสาวมาก ก็ยังยอมรับในตัวพันแสง ถ้ามีหนังสือแนวแบบนี้บ่อย ๆ อ่านทุกวันก็คงเป็นคนอารมณ์ดีตามค่ะ มีทั้งขำ ทั้งหัวเราะ ทั้งยิ้ม และก็ทั้งฟินค่ะ

หนังสือเล่มนี้เป็นแนวสบาย ๆ ค่ะ ดูอ่านง่าย ปกติก็ชอบหนังสือชุด ความรู้สึกดี ๆ ที่เรียกว่ารักเกือบทุกปกนะคะ เพราะอ่านแล้วไม่ค่อยเครียด ใส ๆ ไม่ต้องกดดันอะไรมาก อ่านได้หลายรอบด้วยค่ะ แต่ละคู่ก็มีความต่าง ซึ่งออกมาได้ครบรสมาก อย่างเล่มนี้ นางเอกชื่อ ชลิฌาค่ะ (ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าสมัยนี้ต้องตั้งชื่อพระเอก นางเอกให้มันอ่านยาก สะกดยากจัง) นางเอกเป็นครูสอนพิเศษป้องกันตัวจอมโหด เป็นพวกนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่รู้เท่าทันทุกอย่าง ตอนแรกเจ้านายเธออยากให้เธอไปเป็นนักสืบ แต่เธอไม่ไหวแล้ว ก็ยังไม่หลุดอยู่ดีเพราะป้าเธอมาขอร้องให้เธอไปตามสืบเรื่องพี่สาวที่หายตัวไป ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งก็คือนายพันแสง พระเอกของเรื่องค่ะ ซึ่งทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อน และพระเอกก็เคยเห็นฝีมือของนางเอกแล้ว แต่การมาครั้งนี้ของเธอ มาเพื่อสืบสวนเรื่องของพี่ เธอจึงสนใจแค่งานตรงหน้า ซึ่งลึก ๆ แล้วเธอก็ไม่คิดว่าพันแสงจะอยู่เบื้องหลัง ความรักของทั้งคู่เริ่มเกิดขึ้น แต่ยังติดที่พระเอกเป็นบุคคลต้องสงสัย กว่าจะจบได้ สืบเรื่องราวทั้งหมดได้ก็เล่นเอายิ้มเป็นชั่วโมงค่ะ พระเอกเรื่องนี้น่ารักนะคะ ดูเป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่น มีจิตวิทยาสูง ผูกมิตรกับคนในครอบครัวนางเอกได้หมดเลย แม้กระทั่งคุณพ่อที่หวงลูกสาวมาก ก็ยังยอมรับในตัวพันแสง ถ้ามีหนังสือแนวแบบนี้บ่อย ๆ อ่านทุกวันก็คงเป็นคนอารมณ์ดีตามค่ะ มีทั้งขำ ทั้งหัวเราะ ทั้งยิ้ม และก็ทั้งฟินค่ะ

ตรวนรัก กรงสวาท ชื่อหนังสือดูน่าสนใจพอสมควรเลยค่ะ เห็นลักษณะหนังสือ ปกแล้ว มีความรู้ว่าน่าอ่านยังไงก็ไม่รู้ เลยลองหยิบมาอ่านดูค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ก็ตรงตามความคาดหมายจากชื่อหนังสือนะคะ เพราะพระเอกมาแนวเดียวกันกับหฤษฎิ์จำเลยรักเลย แต่นางเอกไม่ได้เหมือนโสรยานะคะ พระเอกของเรื่องนี้ชื่อกฤตธัชค่ะ ชื่อหล่อมาก แถมยังมีดีกรีเป็นนักเรียนนอกอีกตั้งหาก แต่เค้าไม่ชอบสังคมที่วุ่นวายเลยมาเปิดสัมปทานรังนกที่ภาคใต้ ของเค้านี่ใหญ่ที่สุดในภาคอีกตั้งหาก พระเอกเรื่องนี้เห้นมีการศึกษาแต่ความจริงแล้วแบบซาดิสท์ ป่าเถื่อนมาก ๆ จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือพระเอกจริง ๆ เหรอ นางเอกของเรื่องชื่อจิราวดีค่ะ เคยมีความหลังกับกฤตธัชมาแล้วครั้งนึงซึ่งเธอเป็นฝ่ายทิ้งเค้าไป จิราวดีเป็นคนเอาแต่ใจค่ะ ใครก็ขัดใจไม่ได้ วันนึงนำมาให้คนทั้งคู่มาพบกันอีกครั้ง แต่นางเอกมาพร้อมคดีใหม่คือทำให้ชีวิตคู่ของน้องสาวพระเอกเกือบพังจากเรื่องชู้สาว จากที่โกรธอยู่แล้วคราวนี้เลยเป็นอาฆาตเลยค่ะ ด้านนางเอกก็ไม่ยอมนะคะ หลังจ่กนั้นก็ต้องเดากันเองว่าจะโหดร้ายขนาดไหน พระเอกที่เป้นนายหัวนี่โหดร้ายทุกคนเลยเนอะ แปลกดีค่ะ ก็สนุกในระดับนึงนะคะ ไม่ได้สนุกมาก ชอบความไม่ยอมแพ้ของนางเอก ถึงจะเสียเปรียบแต่ก็สู้อย่างสุดใจเหมือนกัน พระเอกก็มีความเกลียดเยอะมาก นางเอกก็เป็นฝ่ายถูกกระทำต่อไปจนกว่าพระเอกจะรักไปเถอะค่ะ อ่านแล้วรู้สึกเหนื่อย รู้สึกลุ้นไปกับการกระทำของพระเอกมากว่านางเอกจะทนไหวมั้ย

ตรวนรัก กรงสวาท ชื่อหนังสือดูน่าสนใจพอสมควรเลยค่ะ เห็นลักษณะหนังสือ ปกแล้ว มีความรู้ว่าน่าอ่านยังไงก็ไม่รู้ เลยลองหยิบมาอ่านดูค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ก็ตรงตามความคาดหมายจากชื่อหนังสือนะคะ เพราะพระเอกมาแนวเดียวกันกับหฤษฎิ์จำเลยรักเลย แต่นางเอกไม่ได้เหมือนโสรยานะคะ พระเอกของเรื่องนี้ชื่อกฤตธัชค่ะ ชื่อหล่อมาก แถมยังมีดีกรีเป็นนักเรียนนอกอีกตั้งหาก แต่เค้าไม่ชอบสังคมที่วุ่นวายเลยมาเปิดสัมปทานรังนกที่ภาคใต้ ของเค้านี่ใหญ่ที่สุดในภาคอีกตั้งหาก พระเอกเรื่องนี้เห้นมีการศึกษาแต่ความจริงแล้วแบบซาดิสท์ ป่าเถื่อนมาก ๆ จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือพระเอกจริง ๆ เหรอ นางเอกของเรื่องชื่อจิราวดีค่ะ เคยมีความหลังกับกฤตธัชมาแล้วครั้งนึงซึ่งเธอเป็นฝ่ายทิ้งเค้าไป จิราวดีเป็นคนเอาแต่ใจค่ะ ใครก็ขัดใจไม่ได้ วันนึงนำมาให้คนทั้งคู่มาพบกันอีกครั้ง แต่นางเอกมาพร้อมคดีใหม่คือทำให้ชีวิตคู่ของน้องสาวพระเอกเกือบพังจากเรื่องชู้สาว จากที่โกรธอยู่แล้วคราวนี้เลยเป็นอาฆาตเลยค่ะ ด้านนางเอกก็ไม่ยอมนะคะ หลังจ่กนั้นก็ต้องเดากันเองว่าจะโหดร้ายขนาดไหน พระเอกที่เป้นนายหัวนี่โหดร้ายทุกคนเลยเนอะ แปลกดีค่ะ ก็สนุกในระดับนึงนะคะ ไม่ได้สนุกมาก ชอบความไม่ยอมแพ้ของนางเอก ถึงจะเสียเปรียบแต่ก็สู้อย่างสุดใจเหมือนกัน พระเอกก็มีความเกลียดเยอะมาก นางเอกก็เป็นฝ่ายถูกกระทำต่อไปจนกว่าพระเอกจะรักไปเถอะค่ะ อ่านแล้วรู้สึกเหนื่อย รู้สึกลุ้นไปกับการกระทำของพระเอกมากว่านางเอกจะทนไหวมั้ย

มีโอกาสได้ดูละครเรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ เพราะแฟนติดละครเรื่องนี้มาก ปกติก็ไม่เห็นดูละครนะ ตอนแรก ๆ ก็ไม่ได้สนใจเท่าไร แต่ดูไปดูมาแล้วติดเหมือนกันค่ะ เป็นนิยายแนวแฟนตาซีที่สอนให้มนุษย์โลกรู้จักกฎแห่งกรรม ตัวเอกของเรื่องนี้มีอยู่ 4 ตัว แต่ตัวประกอบและองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างทำให้ทั้ง 4 คนนี้มาเจอกัน และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่การกระทำของตัวเองได้กำหนดไว้ ในหนังสืออ่านแล้วก็ดูสนุกไปคนละแบบกับละครค่ะ เพราะมันแทรกนัยยะสำคัญ ๆ ไว้มากกว่า อย่างความคิดของท่านชายวสวัตที่เป็นพระยายมบาล ที่มีต่อเจริญขวัญและชาลินี ส่วนอิศราเป็นพระเอกที่ไม่ค่อยจะใช้ได้เลยค่ะ แม้จะกลับตัวกลับใจได้ในตอนหลังก็เถอะ หนังสือเล่มนี้สะท้อนกฎแห่งกรรมและการกระทำของตัวละครมาก ๆ ค่ะ อย่างชาลินีนี่ก็สุดยอดหญิงชั่ว เคยทำแท้ง เที่ยวกับผู้ชายเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้กระทั่งยมบาลก็ยังไปหว่านเสน่ห์ แต่อีกด้าน เจิรญขวัญกลับเป็นคนดีมาก ๆ เพียงแต่เธอมีสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์นัก รู้สึกสงสารอิศราในตอนท้าย ๆ นะคะ แต่ความหมั่นไส้ในช่วงแรก ๆ ที่อยากได้บ้านคืนมีมากกว่า ออกจะสมน้ำหน้าที่มองข้ามอะไรหลาย ๆ อย่างไป จะว่ากันแล้วชาลินียังน่าสงสารกว่าเยอะเลย เพราะชาลินีก็ได้กล่าวว่าที่ตัวเองเป็นแบบนี้เพราะการเลี้ยงดูของพ่อแม่ อ่านแล้วรู้สึกหดหู่ใจมาก ๆ ค่ะ อ่านแล้วคิด คิดเกือบทุกตอน เป็นนิยายที่แฝงข้อคิดไว้อย่างดีเยี่ยมมาก ๆ เลย

มีโอกาสได้ดูละครเรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ เพราะแฟนติดละครเรื่องนี้มาก ปกติก็ไม่เห็นดูละครนะ ตอนแรก ๆ ก็ไม่ได้สนใจเท่าไร แต่ดูไปดูมาแล้วติดเหมือนกันค่ะ เป็นนิยายแนวแฟนตาซีที่สอนให้มนุษย์โลกรู้จักกฎแห่งกรรม ตัวเอกของเรื่องนี้มีอยู่ 4 ตัว แต่ตัวประกอบและองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างทำให้ทั้ง 4 คนนี้มาเจอกัน และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่การกระทำของตัวเองได้กำหนดไว้ ในหนังสืออ่านแล้วก็ดูสนุกไปคนละแบบกับละครค่ะ เพราะมันแทรกนัยยะสำคัญ ๆ ไว้มากกว่า อย่างความคิดของท่านชายวสวัตที่เป็นพระยายมบาล ที่มีต่อเจริญขวัญและชาลินี ส่วนอิศราเป็นพระเอกที่ไม่ค่อยจะใช้ได้เลยค่ะ แม้จะกลับตัวกลับใจได้ในตอนหลังก็เถอะ หนังสือเล่มนี้สะท้อนกฎแห่งกรรมและการกระทำของตัวละครมาก ๆ ค่ะ อย่างชาลินีนี่ก็สุดยอดหญิงชั่ว เคยทำแท้ง เที่ยวกับผู้ชายเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้กระทั่งยมบาลก็ยังไปหว่านเสน่ห์ แต่อีกด้าน เจิรญขวัญกลับเป็นคนดีมาก ๆ เพียงแต่เธอมีสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์นัก รู้สึกสงสารอิศราในตอนท้าย ๆ นะคะ แต่ความหมั่นไส้ในช่วงแรก ๆ ที่อยากได้บ้านคืนมีมากกว่า ออกจะสมน้ำหน้าที่มองข้ามอะไรหลาย ๆ อย่างไป จะว่ากันแล้วชาลินียังน่าสงสารกว่าเยอะเลย เพราะชาลินีก็ได้กล่าวว่าที่ตัวเองเป็นแบบนี้เพราะการเลี้ยงดูของพ่อแม่ อ่านแล้วรู้สึกหดหู่ใจมาก ๆ ค่ะ อ่านแล้วคิด คิดเกือบทุกตอน เป็นนิยายที่แฝงข้อคิดไว้อย่างดีเยี่ยมมาก ๆ เลย

ชอบละครเรื่องนี้มาก ๆ เลยค่ะ ดูละครย้อนหลังมา 3 ครั้งแล้ว ยังชอบทุกครั้งที่ดูเลย เดินผ่านร้านเช่าหนังสือ เห็นหนังสือเล่มนี้ตั้งอยู่เลยรีบลงทุนสมัครบัตรสมาชิกเลยค่ะ ได้อ่านสมใจอยากแล้ว อยากรู้ว่าเรื่องราวมันจะมุ้งมิ้งมากกว่าในละครมั้ย ซึ่งเรื่องนี้เป็นละครแนวแฟนตาซีโรแมนติกค่ะ มีคอมมาดี้นิดนึงเวลาที่บิวตี้แปลงร่างเป็นนก ซึ่งเหตุผลเป็นเพียงเพราะความเอาแต่ใจและเข้ากันไม่ได้กับผู้อื่น เธอจึงถูกสาปเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ โดยเฉพาะกับนายอ้วนแว่น หรือธีภพ ลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ได้มีศักดิ์เกี่ยวข้องอะไรกันทางสายเลือด ซึ่งเธอจะต้องทำตามเงื่อนไขให้ได้ 3 ข้อเธอถึงจะพ้นสภาพจากการกลายเป็นนก ในช่วงแรก ๆ นี่อลเวงมาก ๆ เลยค่ะ เพราะบิวตี้ไม่สามารถปรับตัวได้ จนมากลาง ๆ เรื่องแล้วถึงจะค่อย ๆ ดีขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับธีภพก็ดีขึ้นมากด้วย ชอบผู้ชายแบบพี่ธีจังเลยค่ะ ดูเป็นคนอบอุ่น สะอาด หล่อ แล้วยังรักสัตว์อีกตั้งหาก ตั้งชื่อนกบิวตี้ว่าบิวตี้ เพราะเห็นว่าลักษณะของนกคล้าย ๆ กับบิวตี้นั่นเอง อ่านแล้วรู้สึกเขินแทนบิวตี้แบบบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้ แต่ชอบผู้ชายแบบนี้มาก ๆ ค่ะ โดยเพาะในตอนท้าย ๆ ที่รู้ว่าบิวตี้จะต้องกลายเป็นนกตลอดไป เค้าได้แสดงความรักต่อบิวตี้ออกมามากมายจนรู้สึกประทับใจมาก ๆ แต่ไม่โอเคกับบิวตี้เลยค่ะ เงื่อนไขของเธอที่จะพ้นจากร่างนกนั้นไม่เข้าใจว่ามันยากเย็นตรงไหนจนได้มาอ่านด้วยตัวเองนี่แหละ กว่าจะอ่านจบได้ หน้านี่ตีนกาขึ้นเลยค่ะ ยิ้มทั้งเรื่อง

ชอบละครเรื่องนี้มาก ๆ เลยค่ะ ดูละครย้อนหลังมา 3 ครั้งแล้ว ยังชอบทุกครั้งที่ดูเลย เดินผ่านร้านเช่าหนังสือ เห็นหนังสือเล่มนี้ตั้งอยู่เลยรีบลงทุนสมัครบัตรสมาชิกเลยค่ะ ได้อ่านสมใจอยากแล้ว อยากรู้ว่าเรื่องราวมันจะมุ้งมิ้งมากกว่าในละครมั้ย ซึ่งเรื่องนี้เป็นละครแนวแฟนตาซีโรแมนติกค่ะ มีคอมมาดี้นิดนึงเวลาที่บิวตี้แปลงร่างเป็นนก ซึ่งเหตุผลเป็นเพียงเพราะความเอาแต่ใจและเข้ากันไม่ได้กับผู้อื่น เธอจึงถูกสาปเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ โดยเฉพาะกับนายอ้วนแว่น หรือธีภพ ลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ได้มีศักดิ์เกี่ยวข้องอะไรกันทางสายเลือด ซึ่งเธอจะต้องทำตามเงื่อนไขให้ได้ 3 ข้อเธอถึงจะพ้นสภาพจากการกลายเป็นนก ในช่วงแรก ๆ นี่อลเวงมาก ๆ เลยค่ะ เพราะบิวตี้ไม่สามารถปรับตัวได้ จนมากลาง ๆ เรื่องแล้วถึงจะค่อย ๆ ดีขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับธีภพก็ดีขึ้นมากด้วย ชอบผู้ชายแบบพี่ธีจังเลยค่ะ ดูเป็นคนอบอุ่น สะอาด หล่อ แล้วยังรักสัตว์อีกตั้งหาก ตั้งชื่อนกบิวตี้ว่าบิวตี้ เพราะเห็นว่าลักษณะของนกคล้าย ๆ กับบิวตี้นั่นเอง อ่านแล้วรู้สึกเขินแทนบิวตี้แบบบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้ แต่ชอบผู้ชายแบบนี้มาก ๆ ค่ะ โดยเพาะในตอนท้าย ๆ ที่รู้ว่าบิวตี้จะต้องกลายเป็นนกตลอดไป เค้าได้แสดงความรักต่อบิวตี้ออกมามากมายจนรู้สึกประทับใจมาก ๆ แต่ไม่โอเคกับบิวตี้เลยค่ะ เงื่อนไขของเธอที่จะพ้นจากร่างนกนั้นไม่เข้าใจว่ามันยากเย็นตรงไหนจนได้มาอ่านด้วยตัวเองนี่แหละ กว่าจะอ่านจบได้ หน้านี่ตีนกาขึ้นเลยค่ะ ยิ้มทั้งเรื่อง

พึ่งจะได้ลองอ่านนิยายมาไม่นานนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้ก็ได้ดูละครอยู่บ้าง เป็นแฟนคลับพี่อั้ม พัชราภาค่ะ มีความรู้สึกว่านางเอกน่าสงสารมาก ๆ พอดีเดินผ่านร้านหนังสือ เห็นชื่อเรื่องคิดว่าเรื่องเดียวกันแน่เลยรีบหยิบมาอ่านค่ะ ก่อนอื่นนะคะ บอกเลยว่านิยายนี่เป็นอะไรที่บีบคั้นอารมณ์มาก ๆ สงสารอารุมมากเลยตอนที่แฟนเสียชีวิตเพราะวิศนี ชีวิตอารุมก็น่าสงสารมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วด้วย เป็นเพียงเด็กวัดธรรมดา ๆ ที่ต้องขวนขวายทุกอย่างจนได้ตำแหน่งถึงผู้จัดการโชว์รูมรถในบริษัทของพ่อนางเอก แล้วนางเอกก็เป็นประเภทคุณหนูเอาแต่ใจ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ แม้วิศนีจะบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่วิศนีก็ยังต้องรับผิดชอบอะไรหลาย ๆ อย่างมาก ซึ่งก็มีผลทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น อารุมก็เริ่มมองเห็นความดีในตัวของวิศนี ทีนี้ก็คงเป็นเร่องของอารุมบ้างแล้วที่จะต้องทำยังไงถึงจะผ่านพ่อของวิศนีไปได้ ซ฿งระหว่างนี้เอง วิศนีก็มีเพื่อนรักที่แสนดีอย่างเดชชาติให้คำปรึกษาในเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งเดชชาติก็เก็บความลับอย่างหนึ่งไว้ลึกสุดใจว่า เค้าแอบรักวิศนีมาตั้งนานแล้ว รู้สึกสงสารและเห็นใจเดชชาติมากค่ะ เรื่องนี้ออกจะดราม่าแบบสุดตัวเลย มามีกุ๊กกิ๊กบ้างเล็กน้อย จำไม่ได้แล้วค่ะว่านิยายเขียนครั้งแรกตอนไหน แต่สำนวนบางสำนวนก็ไม่ทันสมัยเลย อาจจะเป็นเพราะเขียนไว้นานแล้ว แต่ถึงสำนวนจะดูเก่า ๆ เรื่องราวเหตุการณ์อาจจะเก่า ๆ ไปบ้าง แต่นิยายก็ยังคงความสนุกไว้ทุกครั้งที่อ่านค่ะ

พึ่งจะได้ลองอ่านนิยายมาไม่นานนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้ก็ได้ดูละครอยู่บ้าง เป็นแฟนคลับพี่อั้ม พัชราภาค่ะ มีความรู้สึกว่านางเอกน่าสงสารมาก ๆ พอดีเดินผ่านร้านหนังสือ เห็นชื่อเรื่องคิดว่าเรื่องเดียวกันแน่เลยรีบหยิบมาอ่านค่ะ ก่อนอื่นนะคะ บอกเลยว่านิยายนี่เป็นอะไรที่บีบคั้นอารมณ์มาก ๆ สงสารอารุมมากเลยตอนที่แฟนเสียชีวิตเพราะวิศนี ชีวิตอารุมก็น่าสงสารมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วด้วย เป็นเพียงเด็กวัดธรรมดา ๆ ที่ต้องขวนขวายทุกอย่างจนได้ตำแหน่งถึงผู้จัดการโชว์รูมรถในบริษัทของพ่อนางเอก แล้วนางเอกก็เป็นประเภทคุณหนูเอาแต่ใจ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ แม้วิศนีจะบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่วิศนีก็ยังต้องรับผิดชอบอะไรหลาย ๆ อย่างมาก ซึ่งก็มีผลทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น อารุมก็เริ่มมองเห็นความดีในตัวของวิศนี ทีนี้ก็คงเป็นเร่องของอารุมบ้างแล้วที่จะต้องทำยังไงถึงจะผ่านพ่อของวิศนีไปได้ ซ฿งระหว่างนี้เอง วิศนีก็มีเพื่อนรักที่แสนดีอย่างเดชชาติให้คำปรึกษาในเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งเดชชาติก็เก็บความลับอย่างหนึ่งไว้ลึกสุดใจว่า เค้าแอบรักวิศนีมาตั้งนานแล้ว รู้สึกสงสารและเห็นใจเดชชาติมากค่ะ เรื่องนี้ออกจะดราม่าแบบสุดตัวเลย มามีกุ๊กกิ๊กบ้างเล็กน้อย จำไม่ได้แล้วค่ะว่านิยายเขียนครั้งแรกตอนไหน แต่สำนวนบางสำนวนก็ไม่ทันสมัยเลย อาจจะเป็นเพราะเขียนไว้นานแล้ว แต่ถึงสำนวนจะดูเก่า ๆ เรื่องราวเหตุการณ์อาจจะเก่า ๆ ไปบ้าง แต่นิยายก็ยังคงความสนุกไว้ทุกครั้งที่อ่านค่ะ

เรื่องนี้ดูน่าสนใจดีนะคะ ชื่อเรื่องมันดูฟุ้ง ๆ ดี ต้นหมอกสิเน่หา เดาว่าเรื่องราวน่าจะออกมาน่ารักค่ะ ซึ่งพออ่านจบแล้วก็รู้สึกว่าน่ารักจริง ๆ ด้วย พระเอกในเรื่องนี้ชื่อต้นหมอกค่ะ ชื่อน่ารักมาก ๆ เลย ต้นหมอกมีน้องชายฝาแฝดชื่อปลายฟ้า ซึ่งต้นหมอกเนี่ย มีแฟนอยู่แล้วชื่อมัลลิกา แต่วันนึงมีเหตุให้เค้าได้เข้าไปช่วยผู้หญิงคนนึงจากการถูกข่มขืน เธอชื่อข้าวหอม ตอนแรกต้นหมอกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ให้การช่วยเหลือข้าวหอมไปอย่างสุดความสามารถ ซึ่งข้าวหอมมีพ่อที่คอยแต่จะขายเธออยู่เรื่อย และไม่อยากให้ต้นหมอกมาเดือดร้อนกับเธอ ซ฿งหลังจากเหตุการณ์นั้น ต้นหมอกก็รู้สึกแปลก ๆ กับเธอ แต่กว่าจะยอมรับกันได้เนี่ยว่าแอบหลงรักกัน ก็เกือบไม่ได้คู่กันเสียแล้ว ซึ่งในช่วงหลัง ๆ นี่หวานมาก ๆ เลยค่ะ ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก ๆ ครอบครัวหนึ่งเลย ที่รู้สึกดีกับนิยายเรื่องนี้ก็คือการสอดแทรกเรื่องราวแบบเป็นร้อยกรองลงไปค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนกับอ่านนิยายของทมยันตีเลย ได้ฟีลลิ่งมาก ๆ แต่ก็อดรู้สึกสลดใจไปกับเรื่องราวของมัลลิกาไม่ได้ ซึ่งมันออกจะดูโหดร้ายไปสักนิดทีผู้เขียนเขียนให้มัลลิกาต้องไปเจอสิ่งไม่ดีอย่างนั้น แต่รวม ๆ แล้วก็ยังให้ด้านดีกว่ามากเลยค่ะ นาน ๆ จะได้อ่านนิยายรักอบอุ่นแบบที่ไม่ต้องมีอะไรซับซ้อน ยกเว้นความปากแข็งของต้นหมอกนะ ที่ทำให้เรื่องราวมันวุ่นวายขึ้นมาเอง ลุ้นอยากให้มีนิยายเป็นเล่มของปลายฟ้าสักเรื่องนะคะ อยากรู้ว่าจะหวานเท่าพี่ชายมั้ย

เรื่องนี้ดูน่าสนใจดีนะคะ ชื่อเรื่องมันดูฟุ้ง ๆ ดี ต้นหมอกสิเน่หา เดาว่าเรื่องราวน่าจะออกมาน่ารักค่ะ ซึ่งพออ่านจบแล้วก็รู้สึกว่าน่ารักจริง ๆ ด้วย พระเอกในเรื่องนี้ชื่อต้นหมอกค่ะ ชื่อน่ารักมาก ๆ เลย ต้นหมอกมีน้องชายฝาแฝดชื่อปลายฟ้า ซึ่งต้นหมอกเนี่ย มีแฟนอยู่แล้วชื่อมัลลิกา แต่วันนึงมีเหตุให้เค้าได้เข้าไปช่วยผู้หญิงคนนึงจากการถูกข่มขืน เธอชื่อข้าวหอม ตอนแรกต้นหมอกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ให้การช่วยเหลือข้าวหอมไปอย่างสุดความสามารถ ซึ่งข้าวหอมมีพ่อที่คอยแต่จะขายเธออยู่เรื่อย และไม่อยากให้ต้นหมอกมาเดือดร้อนกับเธอ ซ฿งหลังจากเหตุการณ์นั้น ต้นหมอกก็รู้สึกแปลก ๆ กับเธอ แต่กว่าจะยอมรับกันได้เนี่ยว่าแอบหลงรักกัน ก็เกือบไม่ได้คู่กันเสียแล้ว ซึ่งในช่วงหลัง ๆ นี่หวานมาก ๆ เลยค่ะ ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก ๆ ครอบครัวหนึ่งเลย ที่รู้สึกดีกับนิยายเรื่องนี้ก็คือการสอดแทรกเรื่องราวแบบเป็นร้อยกรองลงไปค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนกับอ่านนิยายของทมยันตีเลย ได้ฟีลลิ่งมาก ๆ แต่ก็อดรู้สึกสลดใจไปกับเรื่องราวของมัลลิกาไม่ได้ ซึ่งมันออกจะดูโหดร้ายไปสักนิดทีผู้เขียนเขียนให้มัลลิกาต้องไปเจอสิ่งไม่ดีอย่างนั้น แต่รวม ๆ แล้วก็ยังให้ด้านดีกว่ามากเลยค่ะ นาน ๆ จะได้อ่านนิยายรักอบอุ่นแบบที่ไม่ต้องมีอะไรซับซ้อน ยกเว้นความปากแข็งของต้นหมอกนะ ที่ทำให้เรื่องราวมันวุ่นวายขึ้นมาเอง ลุ้นอยากให้มีนิยายเป็นเล่มของปลายฟ้าสักเรื่องนะคะ อยากรู้ว่าจะหวานเท่าพี่ชายมั้ย

ตอนแรกเห็นชื่อตระกูลพระเอกนี่ นึกว่ามาจากเรื่องเพลิงฉิมพลีค่ะ พระเอกชื่อ ตฤน เหมวัติ อันนู้นเค้าพ่อเลี้ยงหิมวัติเนอะ เอาซะเกือบเข้าใจผิดเลย เล่มนี้ได้ลองอ่านเพราะเพื่อนเอามาให้อ่านค่ะ บอกว่าซาดิสท์ดี ก็เลยลองอ่านดู อ่านจบแล้วก็รู้สึกงั้น ๆ ค่ะ เน้นที่ความเกลียดของพระเอกเป็นเสียส่วนใหญ่ พระเอกเรื่องนี้ไม่ค่อยจะมีเหตุผลเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ อันดา สาวน้อยวัย 18 ที่อยู่ในช่วงวัยกำลังสดใส เธอมองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องดี ๆ ไปหมด แม้กระทั่งการตกหลุมรัก ตฤน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แต่แล้วก็มีเหตุให้เธอกับเค้าต้องกลายมาเป็นพี่น้องกัน เมื่อแม่ของเธอแต่งงานกับพ่อของตฤน ทำใหตฤนเกลียดเธอและแม่มาก เพราะเข้าใจว่าที่มาแต่งงานกับพ่อของเค้านั้น เพราะต้องการทรัพย์สมบัติของตระกูลเหมวัติ เมื่ออันดาย้ายเข้ามา เธอกลับมีความสุขมากที่ได้เจอหน้าตฤนทุกวัน ผิดกับตฤนที่เกลียด ขยะแขยงเธอมาก ๆ จนสุดท้ายความไม่มีเหตุผลของเค้าก็จบลงที่การที่เค้าลงมือปลุกปล้ำเธอจนสำเร็จ ทำให้อันดาที่เคยมองโลกในแง่ดี ไม่มองโลกในแง่เดิมที่เคยมองต่อไป แม้จะรักตฤฯมากแค่ไหน เธอก็จะไม่ยอมเจ็บปวดอยู่ฝ่ายเดียว กว่าจะลงเอยกันได้ก็เกลียดตฤนไปมากเลยค่ะ คือบางทีตฤนก็ไม่มีเหตุผลจริง ๆ นะ ไม่เคยถามเหตุผล ไม่เคยคุยกัน เข้าใจไปเองฝ่ายเดียว ผิดกับอันดาที่มองทุกอย่างรอบตัวอย่างมีความสุข เนื้อหาเล่มนี้ไม่ค่อยโอเคเท่าไรค่ะ สำนวนยังไม่ค่อยดีนัก พระเอกขาดเหตุผลมากเกินไป

ตอนแรกเห็นชื่อตระกูลพระเอกนี่ นึกว่ามาจากเรื่องเพลิงฉิมพลีค่ะ พระเอกชื่อ ตฤน เหมวัติ อันนู้นเค้าพ่อเลี้ยงหิมวัติเนอะ เอาซะเกือบเข้าใจผิดเลย เล่มนี้ได้ลองอ่านเพราะเพื่อนเอามาให้อ่านค่ะ บอกว่าซาดิสท์ดี ก็เลยลองอ่านดู อ่านจบแล้วก็รู้สึกงั้น ๆ ค่ะ เน้นที่ความเกลียดของพระเอกเป็นเสียส่วนใหญ่ พระเอกเรื่องนี้ไม่ค่อยจะมีเหตุผลเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ อันดา สาวน้อยวัย 18 ที่อยู่ในช่วงวัยกำลังสดใส เธอมองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องดี ๆ ไปหมด แม้กระทั่งการตกหลุมรัก ตฤน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แต่แล้วก็มีเหตุให้เธอกับเค้าต้องกลายมาเป็นพี่น้องกัน เมื่อแม่ของเธอแต่งงานกับพ่อของตฤน ทำใหตฤนเกลียดเธอและแม่มาก เพราะเข้าใจว่าที่มาแต่งงานกับพ่อของเค้านั้น เพราะต้องการทรัพย์สมบัติของตระกูลเหมวัติ เมื่ออันดาย้ายเข้ามา เธอกลับมีความสุขมากที่ได้เจอหน้าตฤนทุกวัน ผิดกับตฤนที่เกลียด ขยะแขยงเธอมาก ๆ จนสุดท้ายความไม่มีเหตุผลของเค้าก็จบลงที่การที่เค้าลงมือปลุกปล้ำเธอจนสำเร็จ ทำให้อันดาที่เคยมองโลกในแง่ดี ไม่มองโลกในแง่เดิมที่เคยมองต่อไป แม้จะรักตฤฯมากแค่ไหน เธอก็จะไม่ยอมเจ็บปวดอยู่ฝ่ายเดียว กว่าจะลงเอยกันได้ก็เกลียดตฤนไปมากเลยค่ะ คือบางทีตฤนก็ไม่มีเหตุผลจริง ๆ นะ ไม่เคยถามเหตุผล ไม่เคยคุยกัน เข้าใจไปเองฝ่ายเดียว ผิดกับอันดาที่มองทุกอย่างรอบตัวอย่างมีความสุข เนื้อหาเล่มนี้ไม่ค่อยโอเคเท่าไรค่ะ สำนวนยังไม่ค่อยดีนัก พระเอกขาดเหตุผลมากเกินไป

นิยายของมิรานี่จะตั้งชื่อออกมาได้ตลกทุกครั้งเลยนะคะ เวลาอ่านแล้วมันดูแบบแปลก ๆ มากกว่าจะรู้สึกอย่างอื่น ทั้งที่เป็นนิยายของผู้ใหญ่แท้ ๆ เลย แต่เนื้อหาข้างในก็พอรับได้อยู่ สังเกตว่าพระเอกนิยายของมิรานี่จะหล่อ เพอร์เฟ็กต์ แต่ก็ป่าเถื่อนมาก น่าจะลองมีพระเอกแบบแสนดีดูบ้างเหมือนกันเนอะ อ่านเล่มนี้แล้วไม่ค่อยรู้สึกประทับใจเท่าไรค่ะ ออกจะเกลียดพระเอกมาก ๆ พระเอกชื่อ มาซิโอค่ะ เป็นมาเฟียพ่อค้าสงคราม ที่ต้องมาเจอกับหญิงสาวนามอนงค์นาง ทีแรกเค้าตั้งใจจะหาผู้หญิสวย เก่ง เซ็กซี่มาช่วยเค้าคิดค้นประดิษฐ์อาวุธใหม่ ๆ แต่อนงค์นางกลับไม่ใช่เลย สาเหตุที่เกลียดพระเอกเพราะพระเอกเล่มนี้มีลักษณะที่คล้ายผู้หญิงค่ะ เจ้าเล่ห์ เล่ห์เหลี่ยม มารยา สารพัดที่จะงัดออกมาใช้จนผู้หญิงแท้ ๆ ยังอายเลย ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เค้านำออกมาใช้เพื่อที่จะครอบครองอนงค์นาง และเค้าก็ทำสำเร็จ เพราะอนงค์นางคงไม่สามารถรู้ทันเค้าไปเสียทุกเรื่อง หลังจากเรียบร้อยแล้ว เค้าก็ทิ้งอนงค์นางพร้อมลูกในท้องค่ะ ถึงเวลาที่นางเอกต้องเป็นฝ่ายเอาคืนบ้างแล้ว ตามความจริงก็ไม่น่าจะยกโทษให้เลยนะ แปลกที่ไม่ใช้เล่ห์กระเท่เหมือนเดิมเวลามาง้อนางเอก เกลียดผู้ชายประเภทนี้มาก ๆ ค่ะ ลุ้นทุกตอนให้นางเอกไล่ ตบไปเลยก็ได้ หนีไปอีกประเทศยิ่งดี ยิ่งสะใจมากขึ้นเมื่อพ่อค้าสงครามเจ้าบารมีต้องลดระดับตัวเองลงมาอยู่จุดตกต่ำที่สุดเพื่อง้อนางเอก อายไปตลอดชีวิตค่ะ ยิ่งจบเรื่องยิ่งสะใจสุด ๆ เสียดาย นางเอกน่าจะเล่นตัวกว่านี้อีกสัก 20 หน้า จะหัวเราะให้ดัง ๆ เลยค่ะ

นิยายของมิรานี่จะตั้งชื่อออกมาได้ตลกทุกครั้งเลยนะคะ เวลาอ่านแล้วมันดูแบบแปลก ๆ มากกว่าจะรู้สึกอย่างอื่น ทั้งที่เป็นนิยายของผู้ใหญ่แท้ ๆ เลย แต่เนื้อหาข้างในก็พอรับได้อยู่ สังเกตว่าพระเอกนิยายของมิรานี่จะหล่อ เพอร์เฟ็กต์ แต่ก็ป่าเถื่อนมาก น่าจะลองมีพระเอกแบบแสนดีดูบ้างเหมือนกันเนอะ อ่านเล่มนี้แล้วไม่ค่อยรู้สึกประทับใจเท่าไรค่ะ ออกจะเกลียดพระเอกมาก ๆ พระเอกชื่อ มาซิโอค่ะ เป็นมาเฟียพ่อค้าสงคราม ที่ต้องมาเจอกับหญิงสาวนามอนงค์นาง ทีแรกเค้าตั้งใจจะหาผู้หญิสวย เก่ง เซ็กซี่มาช่วยเค้าคิดค้นประดิษฐ์อาวุธใหม่ ๆ แต่อนงค์นางกลับไม่ใช่เลย สาเหตุที่เกลียดพระเอกเพราะพระเอกเล่มนี้มีลักษณะที่คล้ายผู้หญิงค่ะ เจ้าเล่ห์ เล่ห์เหลี่ยม มารยา สารพัดที่จะงัดออกมาใช้จนผู้หญิงแท้ ๆ ยังอายเลย ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เค้านำออกมาใช้เพื่อที่จะครอบครองอนงค์นาง และเค้าก็ทำสำเร็จ เพราะอนงค์นางคงไม่สามารถรู้ทันเค้าไปเสียทุกเรื่อง หลังจากเรียบร้อยแล้ว เค้าก็ทิ้งอนงค์นางพร้อมลูกในท้องค่ะ ถึงเวลาที่นางเอกต้องเป็นฝ่ายเอาคืนบ้างแล้ว ตามความจริงก็ไม่น่าจะยกโทษให้เลยนะ แปลกที่ไม่ใช้เล่ห์กระเท่เหมือนเดิมเวลามาง้อนางเอก เกลียดผู้ชายประเภทนี้มาก ๆ ค่ะ ลุ้นทุกตอนให้นางเอกไล่ ตบไปเลยก็ได้ หนีไปอีกประเทศยิ่งดี ยิ่งสะใจมากขึ้นเมื่อพ่อค้าสงครามเจ้าบารมีต้องลดระดับตัวเองลงมาอยู่จุดตกต่ำที่สุดเพื่อง้อนางเอก อายไปตลอดชีวิตค่ะ ยิ่งจบเรื่องยิ่งสะใจสุด ๆ เสียดาย นางเอกน่าจะเล่นตัวกว่านี้อีกสัก 20 หน้า จะหัวเราะให้ดัง ๆ เลยค่ะ